ตามสถานการณ์ เยาวชนปลดแอก เหตุการณ์ก่อชุมนุม เรียกร้องความยุติธรรมในไทย

จากเมื่อวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมาได้มีการก่อการชุมนุมขึ้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยแกนนำเยาวชนรุ่นใหม่ เยาวชนปลดแอก หรือ FreeYOUTH ด้วยการเรียกร้องให้มีการตอบสนองต่อความต้องการ 3 ข้อ คือ การยุบสภา เรียกร้องขอให้หยุดคุกคามประชาชน และการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ทั้งนี้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมให้เวลากับทางรัฐบาลในการตอบรับกับคำขอนี้ภายใน 14 วัน หากไม่มีการตอบสนองจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง

การชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิของกลุ่มเยาวชนปลดแอก

กลุ่ม เยาวชนปลดแอก หรือ FreeYOUTH เป็นกลุ่มทางเฟสบุ๊คที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว 2562 ขณะนี้มีผู้ติดตามเพจแล้วกว่าสองแสนคน มีจุดประสงค์หลักคือเพื่อเป็นปากเสียงของเยาวชนต่อความไม่พอใจในการบริหารประเทศของรัฐบาลประยุทธ์ และต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยสิ่งที่ขอให้มีการเปลี่ยนแปลงคือ การเปลี่ยนกฎการเกณฑ์ทหาร โดยกลุ่ม เยาวชนปลดแอก ต้องการให้การเป็นทหารเกิดขึ้นโดยความสมัครใจแทนการจับฉลากใบดำใบแดง, การใช้งบประมาณไปกับกระทรวงกลาโหมที่ไม่เหมาะสม โดยใช้ไปกับการซื้ออาวุธแทนที่จะเอางบประมาณส่วนนี้ไปใช้กับสิ่งที่จำเป็นต่อประชาชนมากกว่านี้ เช่น ดูแลเรื่องภัยพิบัติ ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องการให้เลิกใช้กฎหมายสองมาตรฐาน เห็นได้ชัดเจนจากการยุบพรรค ที่พรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามกับพรรคประชารัฐเห็นจะต้องถูกยุบกันไปเสียหมด กลุ่มเยาวชนปลดแอกจึงต้องการกฎหมายที่ครอบคลุมประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง  

ชนวนการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก

การออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิของกลุ่ม เยาวชนปลดแอก ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ครั้งนี้สามารถวิเคราะห์ชนวนที่ทำให้เยาวชนปลดแอกต้องออกมาทำการเรียกร้องได้ด้วย สามเหตุการณ์หลัก ๆ

1. การเลือกตั้งที่ส่อแววไม่เป็นธรรม จากการที่ให้สภาวุฒิสภามีสิทธิในการเลือกผู้แทนไปแล้วถึง 250 ที่นั่ง นอกจากนี้การประกาศผลการเลือกตั้งก็ดูมีความไม่ชอบมาพากล ใช้เวลาในการรวมคะแนนนานเกินไปเป็นเดือน ซึ่งปกติใช้เพียงไม่กี่วันก็น่าจะสำเร็จแล้ว ทั้งยังมีข่าวเรื่องบัตรเขย่ง และการที่บัตรเลือกตั้งพันกว่าใบจากประชาชนไทยที่อาศัยอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ส่งมาถึงช้าจึงถูกตัดสิทธิอีกด้วย

2. ข่าวการอุ้มวันเฉลิม หรือนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้อพยพในประเทศกัมพูชาจากเหตุการณ์การเมืองของประเทศไทย เป็นเหตุให้ผู้คนเริ่มตื่นตัวกันมากขึ้นว่าการออกความคิดเห็นทางการเมืองอาจพาไปสู่ความเดือดร้อนในอนาคตได้ ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งประชาธิปไตย

3. ภาวะความเป็นผู้นำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และการแก้ปัญหาโควิด-19 ล่าสุดที่เห็นกันอย่างชัดเจนว่าผู้มีอิทธิพลสามารถใช้อำนาจในการเข้าประเทศโดยไม่กักตัวได้ จนอาจเกิดการระบาดของโรครอบที่สองจากการทำงานที่หละหลวมนี้

ติดตาม ข่าวประจำวัน ข่าวดัง ข่าวเด่น ข่าวบันเทิง สดก่อนใครได้ที่นี้